ดูเหมือนว่าคุณจะอยู่ในพื้นที่นี้ .

ไปที่ไซต์ตลาด Scania ของคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม.

วาระด้านการคมนาคม 2573

โลกได้รวบรวมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนไว้ถึง 17 ข้อ สำหรับทุกคนในทุกภาคส่วนของสังคม การมีส่วนร่วมของ Scania ในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้คือการแปลงให้เป็นโซลูชั่นทางธุรกิจที่ยั่งยืน 

วาระการประชุมปี 2573 เป็นวาระการประชุมร่วมกันที่ต้องการการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ธุรกิจ และภาคประชาสังคมที่กว้างขึ้น เราเชื่อมั่นว่าเป้าหมายทั้ง 17 ข้อมีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นการพลิกโฉมสำหรับทั้งสังคมและธุรกิจต่างๆ 

ระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจที่สามารถแข่งขันได้และมีความยืดหยุ่น การไหลเวียนของสินค้าและผู้คนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญของผลลัพธ์การพัฒนา ที่เอื้อต่อความมั่นคงทางอาหาร การศึกษา การลดความยากจน การเติบโตที่ครอบคลุม และอื่น ๆ ในขณะเดียวกัน การขนส่งในรูปแบบปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับผลกระทบด้านลบ เช่น การปล่อย CO2 มลพิษทางอากาศ ความแออัดของการจราจร และอุบัติเหตุบนท้องถนน โซลูชั่นการขนส่งที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังไม่พร้อมให้บริการกับทุกคน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจะมีโอกาสพัฒนาระบบการขนส่งที่ยั่งยืนซึ่งตอบสนองความต้องการของสังคม เมืองหลวง และชุมชนเพื่อเคลื่อนย้ายผู้คนและสินค้า ระบบขนส่งที่เชื่อมโยงผู้คน สร้างตลาดและขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ระบบขนส่งควรได้รับการพัฒนาเพื่อให้มีผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มากที่สุดโดยมีความปลอดภัย ราคาไม่แพง และสามารถเข้าถึงได้ แต่ยังรวมถึงการลดผลกระทบด้านลบต่อผู้คนและการดำรงชีวิตของพวกเขาด้วย เราต้องพิจารณาถึงผลกระทบของโซลูชั่นการขนส่งที่มีต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนจากมุมมองด้านวงจรชีวิต ตั้งแต่การสกัดวัตถุดิบจนถึงจุดจบของชีวิต

การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับภาคการขนส่ง ทิศทางเชิงกลยุทธ์ของ Scania คือการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบการขนส่งที่ยั่งยืน ในปี 2018 Scania ได้ริเริ่มแนวทางการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาเพื่อดูว่าระบบขนส่งเชิงพาณิชย์ที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคตจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และทำให้สำเร็จได้ภายในปี 2050 เราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้ แต่เมื่อร่วมมือกันเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาเช่นกัน

SDG 1 - ลดความยากจน

ระบบขนส่งที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาที่ครอบคลุมและการบรรเทาความยากจน

SDG 2 - ลดความอดอยาก

ห่วงโซ่โลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพในด้านการเกษตรช่วยให้สามารถเข้าถึงตลาดและอาหารราคาถูก

SDG 3 - สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

อุตสาหกรรมการขนส่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศในเมืองของเรา ซึ่งทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและโรคต่าง ๆ มีผู้คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าล้านคนต่อปี

SDG 4 - การศึกษาที่มีคุณภาพ

ระบบขนส่งในพื้นที่ ราคาไม่แพงและใช้งานได้ดีช่วยให้สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษาและส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้ที่เท่าเทียมกัน

SDG 5 - ความเท่าเทียมกันทางเพศ

ตัวเลือกการขนส่งที่ปลอดภัยและราคาไม่แพงเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มการมีส่วนร่วม การศึกษา ประสิทธิภาพการทำงาน และสุขภาพของสตรี การขนส่งสามารถเพิ่มการจ้างงานในหมู่ผู้หญิงได้ 

SDG 6 - น้ำสะอาดและถูกสุขอนามัย

ระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพและสะอาดช่วยให้สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำและสุขาภิบาลได้ ในทางกลับกัน การปล่อยมลพิษจากการขนส่งและอุตสาหกรรมการผลิตสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำได้ 

SDG 7 - พลังงานสะอาดและราคาไม่แพง

ในปัจจุบัน ภาคส่วนการขนส่งส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล การผสมผสานระหว่างการพัฒนาเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนตลอดจนมาตรการด้านประสิทธิภาพของระบบขนส่งและเชื้อเพลิงหมุนเวียน สามารถให้พลังงานที่ทันสมัยสำหรับทุกคนได้

SDG 8 - การทำงานที่ดีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

อุตสาหกรรมการขนส่งเป็นตัวกระตุ้นประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมงานที่ดีตามห่วงโซ่มูลค่ายังคงเป็นความท้าทาย

SDG 9 - อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน

นวัตกรรมในด้านเทคโนโลยีที่สะอาดและยั่งยืนในปัจจุบันถือเป็นการลงทุนที่มากที่สุดของการวิจัยและพัฒนาของอุตสาหกรรมการขนส่ง การขนส่งในฐานะอุตสาหกรรมหลัก สามารถเร่งการใช้นวัตกรรม เช่น ระบบขนส่งอัจฉริยะ (ITS) และเทคโนโลยีสะอาดได้

SDG 10 - ลดความไม่เท่าเทียมกัน

โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่ได้รับการพัฒนาอย่างดีสามารถเชื่อมโยงพื้นที่ในเมืองและชนบทเข้าด้วยกัน และสร้างโอกาสในการเข้าถึงที่เท่าเทียมกันมากขึ้นเช่นงาน การศึกษา และการบริการ 

SDG 11 - เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน

ระบบขนส่งที่มีการวางแผนและออกแบบมาอย่างดีจะเชื่อมโยงภูมิภาคและผู้คนเข้าด้วยกันและรับประกันการเข้าถึงบริการและสินค้า ระบบขนส่งสาธารณะและโลจิสติกส์ที่เข้าถึงได้และราคาไม่แพงช่วยเพิ่มโอกาสและการพัฒนา

SDG 12 - การบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ

ระบบขนส่งอัจฉริยะทำงานควบคู่ไปกับการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน การเปลี่ยนจากระบบโลจิสติกส์ที่เต็มไปด้วยขยะไปสู่โลจิสติกส์ที่ชาญฉลาด มีการเชื่อมต่อ และยั่งยืน

SDG 13 - การดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ

ในปัจจุบันภาคการขนส่งเป็นสาเหตุในการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานถึงเกือบหนึ่งในสี่จากทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับโลกของเรา และอุตสาหกรรมการขนส่งในรูปแบบปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับผลกระทบด้านลบ เช่น การปล่อย CO2 มลพิษทางอากาศ ความแออัดของการจราจร และอุบัติเหตุบนท้องถนน การสร้างระบบขนส่งที่ยั่งยืนมากขึ้นจึงมีความสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกี่ยวข้อง 

SDG 14 - สิ่งมีชีวิตใต้น้ำ

การขยายระบบขนส่งทางทะเลทำให้สภาพแวดล้อมทางทะเลและชายหาดเสื่อมโทรมลง และการปล่อย CO2 จากการขนส่งทางบกเป็นตัวการทำให้มหาสมุทรมีความเป็นกรดสูงขึ้น 

SDG 15 - สิ่งมีชีวิตบนบก

ระบบขนส่งในปัจจุบันกำลังทำให้ระบบนิเวศบนบกเสื่อมโทรมลง แนวทางปฏิบัติในอนาคตจำเป็นต้องผสมผสานปัจจัยที่ยั่งยืนในการวางแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งมีชีวิตบนบกจะมีความยั่งยืน 

SDG 16 - ความสันติสุข ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง

การขนส่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสังคมหลังเกิดความขัดแย้งขึ้น

SDG 17 - ความร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย

การเป็นหุ้นส่วนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายเพื่อแบ่งปันความรู้ ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และทรัพยากรเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุ SDG ในระดับสากล